.....สำหรับการเลี้ยงในระบบฟาร์มอาหารของนกกระจอกเทศมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เหมือนกับการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจชนิดอื่น ๆ ทั้งนี้เพราะผู้เลี้ยงต้องการผลผลิตจากนกกระจอกเทศสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นไข่ เนื้อ หนัง หรือ ขนก็ตาม เนื่องจากต้นทุนในการผลิตจะเป็นค่าอาหาร 60-70% ถึงแม้ว่านกกระจอกเทศจะเป็นสัตว์กินพืชและย่อยสลายอาหารที่มีใยสูง ๆ ได้ดี แต่ความต้องการโภชนะก็จะต้องครบถ้วนตรงตามความต้องการทางร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นแป้ง โปรตีน ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ และน้ำ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตและสืบพันธุ์ ดังนั้นจึงจำเป็นที่ผู้เลี้ยงจะต้องให้การดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี นกกระจอกเทศกินอาหารข้นในปริมาณ 2-3% ของน้ำหนักตัว
ตาราง อายุ น้ำหนักตัว และอาหารที่กินในแต่ละช่วงอายุ
| |||
ขนาด
|
อายุ (เดือน)
|
น้ำหนักตัวนก (กก.)
|
อาหารที่กิน (กก.)
|
ลูกนก
|
0-1
1-2.5 |
0.75-3
3.00-15 |
0.12
0.36 |
นกเล็ก
|
2.5-6
|
15-60
|
1.5
|
นกรุ่น
|
6-11
11-14 |
60-80
80-100 |
2.5
2.2 |
พ่อ-แม่พันธุ์ (ดำรงชีวิต)
|
>14
|
100-120
|
2.3
|
พ่อ-แม่พันธุ์ (ช่วงผสมพันธุ์)
|
>30
|
100-120
|
2.5
|
......ทั้งนี้ผู้เลี้ยงจะต้องคอยสังเกตดูจากตัวนกกระจอกเทศเองด้วย ว่ากินอาหารเพียงพอ อ้วนหรือผอมอย่างไร เพราะบางครั้งให้อาหารมาก นกโตเร็ว ขาจะรับน้ำหนักไม่ไหว ทำให้ขาแบะ และเสียหายได้
ตาราง ปริมาณความต้องการโภชนะในอาหารนกกระจอกเทศ
| |||||||
โภชนะ
|
ลูกนก (เดือน)
|
นกรุ่น (เดือน)
|
พ่อ-แม่ พันธุ์
| ||||
0-1
|
1-2
|
2-5
|
6-11
|
11-14
|
ดำรงชีวิต
|
ผสมพันธุ์
| |
พลังงาน |
2800
|
2700
|
2500
|
2400
|
2300
|
2400
|
2600
|
โปรตีน |
22
|
18
|
16
|
14
|
12
|
12
|
15
|
เยื่อใย |
7
|
10
|
12
|
14
|
16
|
30
|
16
|
แคลเซียม |
1.5
|
1.5
|
1.2
|
1.2
|
1.2
|
1.2
|
2.9
|
ฟอสฟอรัส |
0.75
|
0.75
|
0.6
|
0.6
|
0.6
|
0.6
|
0.9
|
ไลซีน |
1.2
|
1.0
|
0.85
|
0.60
|
0.60
|
0.50
|
0.70
|
เมทไธโอนีน |
0.45
|
0.36
|
0.30
|
0.22
|
0.22
|
0.19
|
0.27
|
ทริโอนีน |
0.25
|
0.21
|
0.18
|
0.13
|
0.13
|
0.10
|
0.13
|
ทริปโตเฟน |
1.0
|
0..86
|
0.73
|
0.52
|
0.52
|
0.48
|
0.67
|
ไอโซซีน |
1.0
|
0.86
|
0.73
|
0.52
|
0.52
|
0.48
|
0.67
|
อาร์จีนีน |
1.38
|
1.15
|
0.98
|
0.69
|
0.69
|
0.57
|
0.80
|
......เนื่องจากใจแต่ละท้องถิ่นมีวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่จะนำมาใช้ประกอบสูตรอาหารสำหรับเลี้ยงนกกระจอกเทศแตกต่างกันไป แต่เพื่อให้ได้อาหารที่ดี มีคุณภาพ จึงมีข้อควรพิจารณาในการผสมอาหารสำหรับเลี้ยงนกกระจอกเทศ ดังนี้
1. | ต้องตรงกับความต้องการของนกกระจอกเทศในแต่ละรุ่น ขนาดพันธุ์ |
2. | มีความน่ากิน ถึงแม้ว่านกกระจอกเทศจะมีต่อมรับรสไม่มากนัก แต่ก็จะเลือกกินอาหารจากลักษณะที่ปรากฏ เช่นสีสัน รูปร่าง หรือกลิ่น |
3. | ไม่ควรเปลี่ยนสูตรอาหารหรือยี่ห้ออาหารจากสูตรหนึ่งไปใช้อีกสูตรหนึ่งอย่างทันทีทันใด ควรจะค่อยๆ เปลี่ยนทีละน้อยเพื่อให้นกกระจอกเทศคุ้นเคยเสียก่อน |
4. | อาหารควรมีส่วนผสมของเยื่อใยจากพืช ในสูตรอาหารนั้น ๆ ด้วยเพื่อกระตุ้นในการย่อยด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าอาหารนั้นควรจะมีปริมาณเยื่อใย 15% นอกจากนี้ควรเสริมด้วยหญ้าสด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตั้งไว้ให้นกจิกกินด้วยก็จะดี |
......ระบบการย่อยอาหารในลูกนกและนกรุ่นจะยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ ดังนั้นสูตรอาหารควรจะมีเยื่อใยจำกัด แต่มีโปรตีนสูง เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโต ขณะเดียวกันก็จะต้องระมัดระวังเรื่องแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรต เพราะจะทำให้ลูกนกอ้วนเกินไป จนทำให้ขารับน้ำหนักไม่ไหว เกิดขาเป๋หรือพิการได้ |
ตาราง ความต้องการอาหารของนกกระจอกเทศแต่ละอายุ
| ||||
ชนิดของอาหาร
|
อายุ(เดือน)
|
พลังงาน (kcal/อาหาร 1กก.)
|
โปรตีน (%)
|
เยื่อใย (%)
|
ลูกนก |
0-3
|
2,500-2,800
|
20-22
|
7-10
|
นกรุ่น |
4-10
|
2,400-2,500
|
12-16
|
14-15
|
นกขุน |
11-14
|
2,300-2,400
|
14-16
|
14-16
|
พ่อแม่พันธุ์(ช่วงผสมพันธุ์) |
>24
|
2,400-2,600
|
14-16
|
14-16
|
|
อาหารสำหรับลูกนกกระจอกเทศ (อายุ 0-3 เดือน)
|
.....ลูกนกในช่วงอายุ 3 เดือนแรกจะมีอัตราการตายสูงมากกว่าช่วงอายุอื่น ๆ ซึ่งจะมีสาเหตุมาจากการจัดการและอาหาร ดังนั้นเพื่อการป้องกันการสูญเสียดังกล่าว ผู้เลี้ยงจะต้องเอาใจใส่ดูแลลูกนกเป็นอย่างดี น้ำ อาหารจะต้องเหมาะสม ครบถ้วนตรงตามความต้องการของลูกนก ในระยะนี้ลูกนกต้องการอาหารที่มีโปรตีน 20% พลังงาน 2,500 – 2,800 กิโลแคลอรี และมีพืชผักสดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตั้งไว้ให้นกจิกกิน ซึ่งในระยะสองสัปดาห์แรกจะให้ครั้งละน้อย ๆ แล้วเพิ่มปริมาณของหญ้าสดตามอายุของลูกนกที่เพิ่มขึ้น หรืออาจจะปล่อยให้ลูกนกลงไปจิกกินเองในแปลงหญ้าก็ได้ แต่แปลงหญ้านี้จะต้องสะอาด ปราศจากยาฆ่าแมลง หรือมีสิ่งแปลกปลอมตกหล่นอยู่ เช่น ตะปู ลวด กระดุม เศษพลาสติก เป็นต้น เพราะนกกระจอกเทศเป็นสัตว์ขี้สงสัย เห็นอะไรตกหล่นอยู่ก็จะจิกกินซึ่งจะทำให้นกกระจอกเทศเป็นอันตรายได้ .....นอกจากนี้การปล่อยให้ลูกนกออกไปเดินเล่นและกินหญ้าในแปลงหญ้า จะทำให้ลูกนกได้ออกกำลังกาย ขาก็จะแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งจะได้รับวิตามินดี (D3) จากแสงแดดอีกด้วย |
|
อาหารสำหรับนกกระจอกเทศรุ่น (อายุ 4-10 เดือน)
|
.....ในระยะนี้ลูกนกกระจอกเทศต้องการอาหารที่มีพลังงาน 2,400 kcal ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม โปรตีน 14-15% และเยื่อใย 14% และจะกินอาหารวันละ 1.0-1.5 กิโลกรัมแต่เมื่อลูกนกอายุมากขึ้น น้ำหนักตัวที่เพิ่มจะอยู่ในอัตราที่ลดลง จึงทำให้อัตราการเปลี่ยนอาหาระเป็นเนื้อเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็จะสามารถกินอาหารที่มีเยื่อใยได้มากขึ้นด้วย ....ถึงแม้ว่านกกระจอกเทศในระยะนี้จะต้องการการดูแลเอาใจใส่น้อยกว่าในระยะ 3 เดือนแรก แต่ก็ไม่ควรประมาทจนขาดความเอาใจใส่ โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพอาหารจะต้องตรงตามความต้องการและมีปริมาณที่เพียงพอ น้ำจะต้องใสสะอาด เสริมอาหารด้วยหญ้าหรือผักสด หรือปล่อยให้นกกระจอกเทศไปจิกกินเองในแปลงหญ้า ที่สำคัญต้องหมั่นตัดหญ้าให้สั้นอยู่เสมอ เพราะนกกระจอกเทศชอบกินหญ้าที่ต้นสูงไม่เกิน 5 นิ้ว และนกจะจิกกินเฉพาะส่วนส่วนปลายใบเท่านั้น |
อาหารสำหรับนกกระจอกเทศขุน (อายุ 11-14 เดือน)
|
.....นกกระจอกเทศที่อายุ 8-10 เดือน จะมีน้ำหนักตัวประมาณ 65-95 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์ อาหาร และการจัดการ สำหรับนกกระจอกคอแดง อายุ 10 เดือน น้ำหนักอาจจะถึง 100 กิโลกรัม ซึ่งสามารถส่งตลาดได้แล้ว .... ในบางแห่งจะซื้อขายกันที่น้ำหนัก 90-95 กิโลกรัม แต่บางแห่งอาจจะต้องการที่น้ำหนัก 100-110 กิโลกรัม อาหารที่นกกระจอกเทศระยะนี้ต้องการคือ มีพลังงาน 2,400-2,500 kcal ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม โปรตีน 12-16% และเยื่อใย 16% .....ระยะนี้นกกระจอกเทศจะกินอาหารวันละ 1.5-2.0 กิโลกรัม ทั้งนี้หญ้าหรือพืชผักจะต้องมีให้กินหรือจะปล่อยในแปลงหญ้าก็ได้ และที่ขาดไม่ได้ คือ น้ำสะอาดต้องมีให้กินตลอดเวลา ..... ผู้เลี้ยงนกกระจอกเทศจะสามารถทำการขุนนกกระจอกเทศได้ตั้งแต่อายุ 4 เดือน ทั้งนี้ผู้เลี้ยงจะต้องเอาใจใส่ในเรื่องน้ำหนักตัวกับขาเป็นพิเศษแต่ถ้าขุนที่อายุ 6 เดือน เป็นต้นไปจะเสี่ยงน้อยกว่า เพราะนกกระจอกเทศมีพัฒนาการของขาดีมากแล้ว .... สำหรับนกกระจอกเทศที่ต้องการจะเก็บไว้ทำพันธุ์นั้น ในช่วงอายุ 14 เดือนขึ้นไปถึงก่อนไข่ เป็นช่วงที่นกกระจอกเทศไม่ให้ผลผลิตแต่อย่างใดและเป็นช่วงที่นกโตเต็มที่แล้ว ผู้เลี้ยงสามารถลดคุณภาพอาหารลงได้ เพราะนกต้องการอาหารแค่ดำรงชีพเท่านั้น โดยอาจจะให้อาหารที่มีโปรตีน 12-14% พลังงาน 2,000-2,200 kcal ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม เยื่อใย 18-20% ให้กินวันละ 1,200-1,500 กิโลกรัม และมีผัก หญ้าสด เสริมให้มากขึ้น แต่ต้องมีน้ำสะอาดให้กินตลอดเวลา |
ตาราง อัตราการเจริญเติบโตของนกกระจอกเทศที่อายุต่าง ๆ
| |
อายุ (สัปดาห์)
|
อัตราการเจริญเติบโต (กก.)
|
2-3
|
2.5-2.7
|
3-4
|
5.5-5.7
|
4-5
|
4.7-4.8
|
5-6
|
6.5-6.7
|
6-7
|
6.5-6.7
|
7-8
|
8.7-8.8
|
อาหารสำหรับนกกระจอกเทศพ่อ-แม่พันธุ์ (อายุ 2 ปีขึ้นไป)
|
.....อาหารที่ใช้เลี้ยงจะประกอบด้วย พลังงาน 2,400-2,600 kcal ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม โปรตีน 14-16% และเยื่อใย 16% ซึ่งการให้อาหารนกกระจอกเทศในช่วงนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ 1. ช่วงผสมพันธุ์ (Breeding Season) 2. นอกฤดูผสมพันธุ์ (Off Season).....นกกระจอกเทศในช่วงผสมพันธุ์จะมีความต้องการอาหารที่มีพลังงานและโปรตีนสูงเพื่อใช้ในการสร้างไข่ ซึ่งถ้าอาหารดีตรงตามความต้องการจะทำให้พ่อ-แม่พันธุ์สมบูรณ์และให้ผลผลิตไข่ที่มีเชื้อดีด้วย เพราะพ่อ-แม่พันธุ์ที่ดีจะสามารถพิจารณาได้จาก |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น